วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

ดอกลิลลี่ชิงเต่า

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วนะคะที่เราจะได้มาพบกัน และเป็นสุดท้ายที่พิเศษมากๆเลย วันนี้มดจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวที่ประเทศจีนค่ะ ไปดูกันว่าที่นั้นมีดอกไม้หายากสู้ของไทยเราได้หรือเปล่านะ ไปดูพร้อมๆกันเลยนะคะ

ดอกลิลลี่ชิงเต่าสีส้ม

ดอกลิลลี่ชิงเต่ามีอีกชื่อหนึ่งว่า ดอกลิลลี่เหลาซาน หรือดอกลิลลี่ภูเขา ฯลฯ จัดเป็นพืชในตระกูลลิลลี่และเป็นไม้ยืนต้นใบเดี่ยว เนื่องจากดอกลิลลี่ชิงเต่ามีเขตการกระจายพันธุ์ที่ค่อนข้างจำกัดและเจริญ เติบโตได้ยาก ปัจจุบันจึงมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ และถูกขึ้นทะเบียนเป็นพืชหายากใกล้สูญพันธุ์กลุ่มที่ 2 ของจีน
เมื่อเร็วๆนี้ มีการพบดอกลิลลี่ชิงเต่าซึ่งถูกขึ้นทะเบียนเป็นพืชหายากใกล้สูญพันธุ์ของจีนที่ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเขาหวินติ่ง เมืองไห่หยาง มณฑลซานตง โดยต้นที่สูงที่สุดสูงถึง 110 ซม. และต้นที่มีดอกมากที่สุดมีถึง 6 ดอก

ดอกลิลลี่ภูเขา


สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หายากหรือหาง่าย เราทุกคนก็ควรช่วยดูแลกันรักษา และอนุรักษ์ดอกไม้เหล่านั้นไว้ช่วยกันนะคะ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จักกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หาได้ยาก หวังว่าเรื่องราวที่มดนำมาฝากตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆท่านนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ถ้ามีโอกาสเราคงได้พบกันอีก สวัสดีค่ะ ^^//




ที่มา : http://www.nongmaiclub.com/blog/index.php?id=lovetree&page=showblog&idg=1&idt=82

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Bleeding Heart ดอกโลหิตแห่งหัวใจ

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ ในวันสุดท้ายของเดือนแห่งความรัก ถึงจะป็นวันสุดท้ายในเดือนนี้ แต่ขึ้นชื่อว่าความรัก หลายๆคนคงนึกถึงสีชมพู  รูปหัวใจ ดอกไม้สวยๆ ตุ๊กตาน่ารักๆ  หรือช็อกโกแลตสักกล่องใช่ไหมคะ และวันนี้มดก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอดอกไม้สุดพิเศษที่จะมาเป็นตัวแทนในเดือนแห่งความรักในครั้งนี้  Let’s go ไปดูกันเลย


Bleeding Heart Valentine ดอกโลหิตแห่งหัวใจสีแดง

Bleeding Heart ดอกโลหิตแห่งหัวใจหรือดอกหทัยหยาดทิพย์ ได้ชื่อนี้มาจากลักษณะการออกดอกคือเมื่อดอกผลิใหม่ ๆ ยังตูมๆอยู่ที่ปลายแหลมของหัวใจด้านล่าง จะมีติ่งรูปร่างคล้ายหยดน้ำ มีสีแดงๆ ดูเหมือนหยดเลือด เมื่อดอกเริ่มบาน ตัวหยดจะเปิดออกให้เห็นไส้สีขาว ๆ อยู่ข้างใน จะเห็นหยดน้ำไหลออกมาจากหัวใจแทน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเยอรมัน คนเยอรมันเห็นตรงนี้เหมือนหยดน้ำตา เลยเรียกดอกนี้ว่า  Traenendes herz


Bleeding Heart Pink ดอกโลหิตแห่งหัวใจสีชมพู

Bleeding Heart เป็นไม้พุ่ม มีใบเป็นแฉกๆ ออกดอกประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคม ดอกเป็นช่อระย้า ไม่ชอบแดดโดยตรง ชอบอยู่ในที่ร่ม มี 3 สี คือ แดง-Bleeding Heart Valentine, สีชมพู-Bleeding Heart Pink และสีขาว-Bleeding Heart White

Bleeding Heart White ดอกโลหิตแห่งหัวใจสีขาว

ว้าว!  ดอกโลหิตแห่งหัวใจ  ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะคะว่าดอกไม้ที่สวยงามมากมายขนาดนี้ ก็มีอยู่บนโลกของเราเหมือนกัน และสำหรับใครที่อยากจะแสดงความรักด้วยดอกไม้ที่มีประวัติลึกซึ้งขนาดนี้ ก็อย่าลืมไปประเทศเยอรมันนะคะ เราสามารถแสดงความรักให้กันในในทุกๆวัน  โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น  อย่าลืมแสดงความรักต่อคนที่เรารักให้ได้ทุกวันนะคะ สำหรับวันนี้มดก็ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ





ที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/263665

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Hooker’s lips ดอกไม้ริมฝีปาก

Hello กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ  สำหรับวันนี้มดก็มีดอกไม้น่ารักๆ หายากมาฝากกันอีกแล้ว สำหรับผู้หญิงเกือบทุกคนมดเชื่อว่าอยากมีริมฝีปากที่สวยงาม ใช่ไหมล่ะคะ แต่วันนี้มดไม่ได้พาไปดูริมฝีปากสวยๆของผู้หญิงคนอื่นนะคะ แต่จะพาไปดูดอกไม้ริมฝีปากต่างหากค่ะ โอ้!ดอกไม้แบบที่ว่าจะเป็นแบบไหนกันนะ มาดูกันเลยค่ะ

Hooker’s lips ดอกไม้ริมฝีปาก

         Hooker’s lips ดอกฮุกเกอร์ลิปส์ หรือชื่อทางการว่า Psychotria elata พืชชนิดนี้เป็นไม้พื้นเมืองในป่าเขตร้อนในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ (ปานามา, คอสตาริกา, โคลัมเบีย และเอกวาดอร์) ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม มีดอกสีสันสดใส เป็นรูปปากอวบอิ่ม สีจัดจ้าน ไว้ล่อแมลงให้เข้าไปเป็นอาหาร แต่ภาพที่อยู่ด้านบนไม่ใช่ดอกที่แท้จริง ดอกที่แท้จริงจะโผล่ออกมาตรงกลางระหว่างช่องอีกที

Hooker’s lips ออกดอก

ดอกไม้ชนิดนี้เป็นของขวัญที่ไดรับความนิยมในอเมริกากลางเพื่อแสดงความรัก อีกทั้งเปลือกและใบของต้นสามารถแก้อาการผื่นที่ผิวหนังและอาการไอ ชาวปานามาใช้พืชชนิดนี้เป็นยารักษาปัญหาโรคเกี่ยวกับการหายใจ แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันมีการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้เสี่ยงที่จะสูญพันธุ์


ว้าว! ดอกไม้แบบนี้ก็มีด้วย หวังว่าสาวๆทั้งหลายคงจะมีริมฝีปากที่สดใสไม่แพ้ดอกไม้ชนิดนี้นะคะ  ถ้าใครมีโอกาสได้เจอดอกไม้ชนิดนี้ก็อย่าลืมถ่ายรูปมาแชร์กันได้นะคะ  แต่อย่าไปเด็ดออกมาจากต้นเลยค่ะ ให้เขาได้ประดับความสวยงามและความมหัศจรรย์อยู่บนนั้น แล้วพบกันอีกครั้งในวันหน้านะคะ




ที่มา : https://my.dek-d.com/keny/writer/viewlongc.php?id=486572&chapter=660
        http://www.seedsofeaden.com/ornamental-plants-k7/hooker-s-lips-plant-psychotria-elata-b83.html

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เทียนนกแก้ว

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน กลับมาพบกับมดอีกเช่นเคยนะคะ หลังจากที่เราได้ไปดูดอกไม้ต่างประเทศกันมามากมายแล้ว วันนี้มดก็จะพาท่านผู้อ่านกลับมาที่ประเทศของเรานี่เองค่ะ อยากให้ทุกคนได้รู้ว่าดอกไม้หายากในประเทศไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ดอกเทียนนกแก้วที่ดอยหลวงเชียงดาว

เทียนนกแก้ว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Impatiens psittacina; อังกฤษ: parrot flower) อยู่ในวงศ์ Balsaminaceae อันดับ Ericales เป็นดอกไม้ที่แปลกตามาก เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทย หาไม่ได้จากที่ใด ๆ ในโลก จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับวงศ์เทียน มีรูปทรงของดอกที่สวยงามเหมือนนกแก้วที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เราเรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า ดอกเทียนนกแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุกและเป็นพรรณไม้เมืองหนาว

ภาพถ่ายจากด้านล่างของดอกเทียนนกแก้

เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบขึ้นตามใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าดิบเขาหรือบริเวณโขดหินปูนที่อยู่สูง จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500-1,800 เมตร และพบได้เพียงที่เดียวคือที่ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเป็นบริเวณที่มีลักษณะเป็นเทือกเขา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง ตำบลเมืองงาย ตำบลเมืองคอง ตำบลเชียงดาวและตำบลแม่นะ จังหวัดเชียงใหม่  ดอกจะบานราวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน คนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะอยู่บนภูเขาสูง และดอกเทียนนกแก้วมักขึ้นในพื้นที่ที่เป็นโขดหิน ใกล้ ๆกับต้นหานช้างร้องที่เป็นพิษ
เห็นไหมล่ะคะในประเทศไทยเรา ธรรมชาติก็สวยงามไม่น้อยไปกว่าประเทศอื่นๆ เพราะฉะนั้น ไปเที่ยวในประเทศเราดีที่สุดค่ะ ครั้งหน้ามดจะมีดอกไม้หายากและน่าสนใจขนาดไหนมาฝาก รอติดตามกันเยอะๆนะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งต่อไป สำหรับวันนี้มดก็ต้องขอตัวลาไปก่อน  สวัสดีค่ะ





ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Monkey orchid ดอกกล้วยไม้เหมือนหน้าลิง


             ลิง ลิง ลิง ลิง ลิงตัวนั้น ตัวนู่น ตัวนี้ สงสัยกันใช่ไหมคะว่ามดพูดถึงลิงทำไมกันนะ บอกให้ก็ได้ค่ะ วันนี้มีเรื่องราวของดอกไม้หน้าลิงมาฝาก เอ๋! ดอกไม้น่าลิงจะเป็นไปได้ยังไง หลายคนเกิดคำถาม และคงจะอยากรู้แล้ว ดอกไม้หน้าเหมือนลิงมีจริงๆนะคะ  ไม่เชื่อก็มาพิสูจน์กันเลย

Monkey orchid ลิงหน้าบูด

Monkey Orchid เป็นกล้วยไม้พันธุ์หายาก และมีถิ่นกำเนิดอยู่ในป่าดงดิบบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอควาดอร์และเปรู และอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร
ดอกของมันมีกลิ่นหอมเหมือนผลส้มสุก กล้วยไม้พันธุ์นี้เพิ่งถูกค้นพบเมื่อกว่า 30 ปีก่อน แต่เราสามารถพบกล้วยไม้สกุลเดียวกันนี้อีกกว่า 120 ชนิดในเอควาดอร์
ถ้าอยู่ในสภาพอากาศที่เหมาะสมคือหนาวและไม่ค่อยมีแดด กล้วยไม้ชนิดนี้จะออกดอกได้ตลอดปี


Monkey orchid


เป็นไงคะ ทีนี้เชื่อมดได้หรือยัง ธรรมชาติเรานี้ก็ยังคงความมหัศจรรย์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด  ถ้าหากว่าใครเจอดอกไม้รูปร่างคล้ายสัตว์อย่างอื่นก็สามารถนำมาแชร์กันได้นะคะ  แล้วพบกันใหม่วันต่อไปค่ะ





ที่มา : http://home.sanook.com/2013/

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Snow lotus บัวหิมะ

             สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ และในวันนี้สำหรับใครที่ชอบอากาศเย็นๆ มีหิมะหน่อยๆ ก็คงเข้าได้กับดอกไม้ที่มดตั้งใจนำมาฝากในวันนี้ เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย อยากรู้แล้วใช่ไหมคะ  จะรออะไรอยู่  ไปดูกันเลยค่ะ

บัวหิมะบนเทือกเขาเทียนซาน

Snow lotus บัวหิมะ เป็นไม้ดอกที่อยู่ในวงศ์ Asteraceae  บัวหิมะ เจริญเติบโตอยู่บนยอดเขาที่มีอากาศเย็นจัดที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี เช่น บริเวณเทือกเขาเทียนซาน (เทียนซัน Tianshan) เทือกเขาคุนหลุน (คุนลุน, คุนลุ้น) และเทือกเขาอัลไต ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร  Northwest China’s Xinjiang Uygur Autonomous Region ซึ่งเรียกว่า บัวหิมะซินเจียง (Xinjiang Snow Lotus หรือ Xuehehua)
โดยจะพบบัวหิมะ ขึ้นกระจายอยู่ตามบริเวณร่องหิน โขดหิน และไหล่ภูเขาสูง ที่มีอากาศเย็นจัดหรือบริเวณที่ราบสูงมีหิมะปกคลุมทั้งปี เช่น ซึ่งเรียกว่า บัวหิมะซินเจียง (Xinjiang Snow Lotus หรือ Xuehehua)



ดอกบัวหิมะตอนตูม

บัวหิมะเติบโตในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 30004000 เมตรขึ้นไป ซึ่งแม้ในฤดูร้อนภูเขาก็ยังมีหิมะปกคลุม บัวหิมะเติบโตอย่างช้าๆ แต่ทนทานมาก โดยปกติเมล็ดของบัวหิมะเพียง 5% เท่านั้นที่เติบโตจนออกดอกได้ และใช้เวลา 3 ปีกว่าจะเก็บเกี่ยวได้
ดอกบัวหิมะบานช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมของทุกปี ดอกเป็นสีขาวหรือเขียวอ่อน ดูคล้ายดอกบัวขนาดใหญ่ เบ่งบานท้าทายลมและหิมะ ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว
เนื่องจากบัวหิมะเจริญเติบโตในบริเวณอากาศหนาวเย็นมาก ดอกบัวหิมะจึงมีรสขมเล็กน้อย ในปัจจุบันบัวหิมะใช้ทำยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมความงามกว่า 50 ชนิด


ดอกบัวหิมะตอนกำลังบาน

อยากไปเจอของจริงกันแล้วใช่ไหมคะ แนะนำว่าต้องเตรียมร่างกายและเสบียงให้พร้อม  เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางที่ไกล และนานมาก ใครที่ชอบเดินหรือปีนเขาก็คงสบายๆใช่ไหมล่ะคะ มดว่าถ้าได้ไปเจอด้วยตาตัวเอง  ได้สัมผัสด้วยมือ  ได้กลิ่นหอมๆของดอกบัวหิมะ ก็น่าจะคุ้มค่ากับการเดินทางไปแล้วหล่ะค่ะ 
และในวันนี้มดก็ต้องขอตัวลาไปเก็บกระเป๋าตามหาบัวหิมะแถวๆประเทศไทยก่อน แล้วเจอกันใหม่นะคะ bye bye




ที่มา : http://maidogmaipradub.blogspot.com/2013/02/blog-post_21.html

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Diphylleia Grayi ดอกไม้โครงกระดูก

          สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้มดก็ได้นำเรื่องราวของดอกไม้ที่หายากมาฝากอีกเช่นเคยนะคะ คราวนี้เป็นดอกไม้ที่พิเศษและมหัศจรรย์มากๆเลย  จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลยค่ะ
Diphylleia Grayi ดอกสีขาวขุ่นเมื่อยังไม่โดนน้ำ

Diphylleia Grayi เป็นดอกไม้ที่มองดูเผินๆก็สีขาวธรรมดาๆ   พบได้ตามภูเขาในประเทศจีน  ในประเทศญี่ปุ่น  แต่ทว่าเมื่อฝนตกพร่ำลงมาความงดงามก็เกิดขึ้น Diphylleia grayi หรือเรียนว่าดอกไม้โครงกระดูก ดอกไม้ชนิดนี้ถูกค้นพบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น ลักษณะต้นของมันสามารถเติบโตได้สูง ซึ่งสูงถึงเกือบครึ่งเมตร หรือบางต้นอาจสูงมากถึง 1 เมตรเลยทีเกียว เมื่อโดนฝนความพิเศษของดอกไม้ประเภทนี้คือ กลีบของมันที่มีความละเอียดอ่อนจะกลายเป็นกลีบที่มีลักษณะโปร่งใส บาง และเปร่งประกายเหมือนแก้ว  นับว่าเป็นดอกไม้หายากชนิดหนึ่งในโลกเลยทีเดียว


Diphylleia grayi เมื่อโดนน้ำฝนแล้วจะโปร่งใส


เป็นยังไงกันบ้างคะ ดอกไม้ที่มดเอามาฝากในครั้งนี้เชื่อว่าหลายคนก็คงไม่เคยเห็น และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรา เพราะ Diphylleia grayi เป็นดอกไม้ที่มีความแปลกมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แต่งแต้มสร้างสรรขึ้น  ไม่ใช่ว่าจะพบเห็นได้ง่ายๆนะคะ  ส่วนใครที่อยากไปเห็นดอกไม้ชนิดนี้กับตาตัวเอง มดขอแนะนำที่นี้เลยค่ะ บริเวณเชิงป่าที่หนาวเย็นของประเทศญี่ปุ่น จีน และแนวเทือกเขาในประเทศสหรัฐอเมริกา ตามหาให้เจอนะคะ เพราะว่ามันหายากมาก แล้วกลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ



ที่มา : https://www.dek-d.com/board/view/3683056/